ถ้าคุณอยากปังรับปี 2022 คุณต้องไม่พลาด กับทุกเทรนด์ของการตลาดดิจิทัลที่กำลังมาแรง รู้ก่อนลงมือก่อน ได้เปรียบกว่าเป็นไหน ๆ
วันนินจาการตลาดได้รวบรวมเทรนด์การตลาดของปี 2022 มาให้ อ่านให้จบ แล้วพร้อมไปรบ เอ้ย พร้อมนำไปปรับใช้ให้เข้ากับแผนการตลาดของคุณ อย่ามัวรอช้า ไปกันเลยกันเลย
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/1.-omni-marketing-01-scaled.jpg)
1. Omni Channel เพิ่มยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมวางระบบ ปรับโครงสร้างใหม่
หัวใจสำคัญของการทำการตลาด คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อนำไปสู่ความ Loyalty ต่อแบรนด์ ซึ่งในยุคดิจิทัลปี 2022 นี้ Omni Channel Marketing จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/omni-marketing_-03.jpg)
Omni Channel Marketing คือการทำการตลาดหลากหลายช่องทาง ครบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยที่ทุก ๆ ช่องทางมีการเชื่อมต่อกันแบบ Seamless ทำให้ลูกค้าสามารถได้รับประสบการณ์ที่ดีแบบเดียวกันในทุก ๆ ช่องทาง ซึ่งจะสามารถสร้างความพึงพอใจและสามารถพัฒนาไปเป็นความ Loyalty ต่อแบรนด์ได้
ส่วนสำคัญของการทำการตลาดประเภทนี้ คือ แบรนด์จำเป็นต้องรู้จักลูกค้าให้มากพอ จนสามารถวางกลยุทธ์ในการตอบโจทย์แบบ Personalize ได้
.
จากนั้นแบรนด์ต้องวางระบบ และโครงสร้างของแต่ละช่องทางใหม่ รีวิธีคิดแบบเดิม รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ที่ต้องเริ่มจากภายใน ซึ่งแต่ก่อนเรามักจะเริ่มจากภายนอก เช่น การทำการสื่อสารการตลาด การทำสื่อโฆษณารีแบรนด์ หรือการนำเอาระบบอำนวยความสะดวกผู้บริโภคมาใช้
.
แล้วค่อยนำมาปรับใช้และสื่อสารกับภายในองค์กร แต่ในปัจจุบันและอนาคต วิธีการคิดลักษณะนี้จะเปลี่ยนแปลงไป พูดง่ายๆ ก็คือ ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เราเห็นในปัจจุบันส่วนมากเกิดขึ้นจากภายในก่อน เกิดจากระบบภายในที่แข็งแรง เกิดจากวัฒนธรรมองค์กร หรือความเชื่อขององค์กรอะไรบางอย่างจากคนภายในก่อน ทั้งในเรื่องของ Transformation หรือ Brand Value แล้วจึงถูกนำเสนอออกมาสู่ภายนอกทีหลัง
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/omni-marketing_-04.jpg)
ราควรจะเริ่มจากคนใน หรือภายในก่อน ทำเทรนนิ่งเพื่อคนในองค์กรก่อนแล้วค่อยทำออกมาสู่ภายนอกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเริ่มเปลี่ยนมากขึ้นในอนาคต โดยองค์กรจะเริ่มหันมาสร้างแบรนด์และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เริ่มต้นจากคนในแล้วค่อยสื่อสารมันออกไปสู่ภายนอก
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Data-01-scaled.jpg)
2. Data สิ่งล้ำค่าที่นักการตลาดต้องแข่งกันช่วงชิง เราอยู่ในยุคที่โลกดิจิทัลสามารถช่วยให้เราหาข้อมูลจากคนนวนมากได้หลากหลายวิธี ซึ่งได้เปรียบกว่าโลกสมัยก่อนมาก และข้อดีของมัน ก็ช่วยให้เราวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของเราได้ดียิ่งขึ้น แม่นยำยิ่งขึ้น
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Data-03-scaled.jpg)
Data ของกลุ่มเป้าหมายนี่เปรียบเสมือน GPS เหมือนเข็มทิศส่องทางชีวิต เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนด ถึงทิศทางของแคมเปญและแผนการตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้น ว่าจะไปในแนวทางไหน ไปทางไหนแล้วดีที่สุด
.
ยิ่งเรามี data เกี่ยวกับลูกค้ามากเท่าไหร่ แบรนด์ก็ยิ่งสามารถพัฒนาบริการและการดำเนินงานให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากเท่านั้น แถมยังสามารถนำมาคาดการณ์เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย! ดังนั้นแล้ว Data เปรียบเสมือนสใบัติล้ำค่าที่เหล่านักการตลาด ต้องแข่งกันช่วงชิงมาให้ได้ ใครที่มี Data ที่เยอะกว่า ลึกกว่า ชัยชนะก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วครับ
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Data-02-scaled.jpg)
แต่…โลกมันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ และนี่ก็นับเป็นโจทย์ยากของวงการโฆษณาและการตลาด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของ Privacy เช่น iOS ที่มีการอัปเดตให้ลบคุกกี้ที่รอดำเนินการ
.
รวมไปถึง Safari และ Firefox ที่สามารถบล็อกคุกกี้ของ Third-Party ได้ เป็นผลทำให้เก็บ data ได้น้อยลง ซึ่งแบรนด์เองก็ต้องปรับตัวและหาวิธีใหม่ในการเก็บ data กันต่อไป…
.
ยังครับ ยังไม่พอแค่นั้น ความยากยังมีอีก เมื่อคุณมีข้อมูล มี Data ที่เยอะแล้ว แน่นแล้ว แต่มันยังไม่พอ… การตลาดยุคใหม่ต้องเพิ่มความเห็นอกเห็นใจผู้บริโภคเข้าไปด้วย
.
ในตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะทั้งทางตรงทางอ้อม ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีที่ดีที่สำคัญ ที่มันจะช่วยให้เราทำการตลาดได้ตรงจุด แต่ในขณะเดียวกัน การเห็นอกเห็นใจหรือการเข้าใจ Pain ที่แท้จริงภายใต้ข้อมูลผู้บริโภคที่เราเก็บมาก็สำคัญไม่แพ้กัน
.
แนวคิดเรื่อง Empathy มีมาพร้อม ๆ กับ แนวคิดเรื่อง Design Thinking ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญที่ใช้ในการดีไซน์สินค้าตัวใหม่ แต่แนวคิดนี้ถูกปรับมาใช้ในการสื่อสารการตลาดมากขึ้น ที่นักการตลาดจำเป็นที่จะต้องเพิ่ม Empathy ลงไป
.
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจปัญหาของผู้บริโภคอย่างแท้จริง การสื่อสารอย่างระมัดระวังในประเด็นละเอียดอ่อน การสื่อสารโดยไม่หลอกหลวงหรือไม่รบกวน และสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำ การเข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวัง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราชนะใจผู้บริโภคได้มากขึ้นและง่ายกว่าเดิม
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/influencer-marketing-01.jpg)
3. Influencer Marketing มาแรง ไม่เคยแผ่ว!
ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด อาชีพนู่นดับ อาชีพนี้ร่วง หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มชะลอตัว
แต่…Influencer Marketing กลับเติบโตขึ้นอย่างสวนกระแส
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/influencer-marketing-02.jpg)
ที่สำคัญ เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา Influencer Marketing สามารถทำมูลค่าทางการตลาดไปได้ถึง 13.8 พันล้านเหรียญ ข้อมูลอ้างอิงมาจาก Influencer MarketingHub
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/influencer-marketing-03.jpg)
แล้วทำไม Influencer Marketing ถึงเติบโตสวนกระแส จนสามารถทำมูลค่าไปได้สูงขนาดนั้น ก็เพราะว่า การตลาดประเภทนี้ทำผ่านออนไลน์อย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีการออกกอง เพื่อถ่ายหนัง หรือถ่ายโฆษณา แต่ใช้แค่ การรีวิวของคนดังที่มีผู้ติดตามอยู่มากสมควรก็เท่านั้น
.
และหากสามารถรีวิวที่น่าสนใจ มีไอเดียที่สร้างสรรค์และที่สำคัญ น่าเชื่อถือ ก็จะทำให้เกิด Word of Mouth ที่ส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ และยังเกิดการแชร์ต่อแบบ Organic ซึ่งเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรน์เป็นอย่างมาก
.
มันดูเหมือนจะง่ายก็จริงนะครับ เพียงแค่จ้างคนดัง มารีวิวสินค้าให้ แต่…สิ่งที่ต้องระวังมันก็มีนะครับ เพราะพลาดกันมาเยอะแล้ว! นั่นคือการเลือกใช้ Influencer ให้เหมาะ ให้เข้ากับแบรนด์ด้วย ต้องเลือกให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา แล้วการตลาดแบบ Influencer Marketing ก็จะได้ผลดีที่เดียว
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/TShort-vdo-TikTok-and-Stories-scaled.jpg)
4. กระแสที่ไม่ควรมองข้ามกับ Short Video แนว TikTok และ Stories
.
อันนี้ต้องขอบอกเลยครับว่า content แนว TikTok video และ Stories ที่เน้นการดูแนวตั้งผ่าน mobile ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน และเชื่อว่าในปี 2022 ก็จะยังคงมาแรงต่อไป เพราะในทุก ๆ แอปฯ ตัวท็อป ก็ออกฟีเจอร์วิดีโอแนวนี้มาครบหมดแล้ว
.
อย่างแอปฯ TikTok เอง ในช่วงปีก่อนหน้าที่ผ่าน เขาเติบโตขึ้นอย่างมากจากวิดีโอสั้น จนในตอนนี้ TikTok มียอดผู้ใช้งานสูงถึง 732 ล้าน ขยับขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับที่ 7 และเหนือกว่าโซเซียลมีเดียที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ เช่น Pinterest (มีผู้ใช้งาน 478 ล้านคน) หรือแม้แต่ Twitter (มีผู้ใช้งาน 397 ล้านคน)
.
และอย่างในปีนี้เองทิศทางการเติบโตของ TikTok จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแบรนด์หรือนักการตลาดเองจึงควรหันมาลงสนาม ปรับตัวตามเทรนด์นี้เอาไว้ ศึกษาเกี่ยวกับคอนเทนต์ใน TikTok และนำมาปรับใช้กับแผนการตลาดของคุณต่อไป รับรองปังแน่
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Digital-Advertising-Spending-01-scaled.jpg)
5. การกระจายตัวของเม็ดเงินโฆษณาดิจิตอล
ในปี 2021 ที่ผ่านมา เราจะเห็นเลยว่าค่าโฆษณาใน Facebook นั้นแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทยประเมินว่า
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Digital-Advertising-Spending-05-scaled.jpg)
เม็ดเงินโฆษณา Digital Advertising Spending จะแตะที่ 22,800 ล้านบาท ซึ่งจากตัวเลขนี้ มากกว่า 50% จะไปลงในโฆษณา Facebook และ YouTube
.
นอกจากเรื่องค่าโฆษณาแพงเพราะคู่แข่งเยอะมากขึ้นแล้ว ไหนจะมีเรื่อง Data Privacy อีก สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกประเด็นที่อาจจะทำให้นักการตลาดหันไปมอง Platform อื่นมากขึ้นเพราะความแม่นยำในการลงโฆษณาบน Facebook ดูจะดรอปลงไป ทำให้แทนที่จะพึ่ง Facebook เพียงอย่างเดียวในการ Targeting หากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
.
ในปี 2022 นี้เราน่าจะได้เห็นการกระจายตัวของโฆษณาไปใน Platform อื่นกันมากขึ้น
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Digital-Advertising-Spending-02-scaled.jpg)
ยกตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ต้องการจะเจาะกลุ่มคนโสด Tinder Ads ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Digital-Advertising-Spending-04-scaled.jpg)
หรือหากอยากจะคุยกับกลุ่มคนเมือง ผู้ที่อยู่ในกระแสตลอดเวลา Spotify Ads ก็น่าสนใจ
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Digital-Advertising-Spending-03-scaled.jpg)
หากอยากจะสื่อสารกับกลุ่มพนักงานบริษัท ก็มี Linkedin ให้เป็นอีกตัวเลือก หรือเจาะกลุ่มคนที่ชอบการสั่งอาหาร Delivery ใช้ Grab Ads ย่อมตรงมากกว่า หรือ Twitch ก็เป็นอีก Platform ที่น่าสนใจสำหรับวัยรุ่นชอบเล่นเกมส์
.
ยังไม่นับการลงโฆษณาบน TikTok ที่ยังมีราคา CPM (ย่อมาจาก “Cost per 1000 impressions”
(ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง) และ CPC (คือจำนวนเงินที่คุณได้รับในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณาของคุณ) ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ Facebook ด้วยงบประมาณโฆษณาที่เท่ากัน
.
และไหนจะยังมี Streaming Platform อื่น นอกจาก Netflix และ YouTube ที่เปิดรับโฆษณาอีก อย่าง ViU, BugabooTV ที่แต่ละ Platform มีจุดเด่นคอนเทนต์ที่แตกต่างกันตามความสนใจกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
.
อย่างนั้น ถ้าในปีนี้ ราคา Facebook Ads ยังคงแพงอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ และการเข้าถึงด้วย Data พฤติกรรมการใช้งานทำได้ยากขึ้น เราอาจจะได้เห็นการโยกย้าย Budget ครั้งใหญ่กระจายออกจาก Facebook และ YouTube ไปใน Platform อื่นเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ครับ
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/live-streaming-01-scaled.jpg)
6. Live Streaming
คุณยังจำปรากฎการณ์ของ Facebook Live ของ 2 พส. ที่มีคนดู Live สดมากกว่า 2 แสนคนได้กันไหมครับ ช่วงนั้นเป็นกระแสถึงขั้นที่ว่าแบรนด์ต่าง ๆ ต้องมาตาม Comment กันยกใหญ่ รวมถึงรายการ Live ที่คนติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง อย่าง NaNake555 ที่ Facebook APAC Summit หยิบมาเป็น Case Study เกี่ยวกับการผลิต Facebook Live Video เลยที่เดียว
.
นอกจากนั้นเหล่าดาราและศิลปินคนดังตอนนี้ต่างก็ผลิต Content ให้ช่องตัวเองทางออนไลน์กันเกือบทุกคน เรียกได้ว่าในปี 2021 ที่ผ่านมา ถ้าดาราคนไหนยังไม่มี YouTube หรือ Facebook เป็นของตัวเองนี่คือตกเทรนด์มาก ๆ บางคนถึงขั้นสร้างเพจขึ้นมา เพื่อไลฟ์ขายของโดยเฉพาะ และเป็นไปได้ว่าในปีนี้ ศิลปินดาราอีกหลาย ๆ คน อาจจะเริ่มทำ Live รายการสดกันมากขึ้นก็ได้ แบรนด์ไหน ธุรกิจไหน ยังไม่เคยทำ เชยแล้วนะครับ รีบเลย
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/meme-marketing-01.jpg)
7. Meme Marketing
“มีม” เป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้กันเยอะมากในวงการ Digital Marketing ทั้งในภาพยนตร์ คลิปวิดีโอ โฆษณา จับมาโยงกับเหตุการณ์ที่แบรนด์ต้องการสื่อออกไปได้ ถ้าทำได้ดีก็อาจจะกลายเป็นกระแสไปเลย
.
เพราะเป็นการเล่าเรื่องที่ง่าย ใช้แค่ภาพ หรือข้อความก็ทำให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว มองปุ๊บ รู้ปั๊บ
แต่ในการใช้ Meme Marketing ก็ยังมีข้อที่แบรนด์ควรจะต้องระวังไว้อยู่นะครับ
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/meme-marketing-02.jpg)
อย่างในช่วงปี 2021 หลายคนอาจเริ่มเห็นกระแสตีกลับของผู้บริโภคที่เกี่ยวกับการเล่นคอนเทนต์กระแสของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น มีมช้างป่าที่บุกพังกำแพงบ้านในชุมชนแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อหาอาหาร หลังจากเจ้าของบ้านโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็เกิดการแชร์ต่อเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว บรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ก็เข้ามาร่วมแจมทันที
.
ทำให้เกิดประเด็น สวัสดิการของสัตว์ที่ต้องดิ้นรนออกมาหาอาหารในชุมชน อันตรายที่เจ้าของบ้านจะได้รับ รวมถึงเรื่องลิขสิทธิ์ที่แบรนด์นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์อีกด้วย
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/meme-marketing-03.jpg)
การใช้กลยุทธ์นี้ยังเป็นสิ่งที่ได้ผลดีกับแบรนด์ในเวลาอันรวดเร็ว และง่ายดาย แต่…ก็คิดว่า ปี 2021 ที่ผ่านมาได้สอนอะไรให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ไปพอสมควร คาดว่าในปี 2022 แบรนด์ต่าง ๆ จะระมัดระวังในการเล่นคอนเทนต์แนวนี้มากขึ้น ทั้งการเชื่อมโยง ความเหมาะสม และอีกมากมาย
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Metaverse-01-scaled.jpg)
8. Meta มาแน่ (Metaverse โลกเสมือนจริง)
อันนี้อาจจะดูไกลตัวพวกเราไปสักนิดนะครับ แต่…คุณควรต้องรีบรู้ และรีบทำความเข้าใจไว้ รีบพาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ มัน
.
เมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา คงไม่มีเทรนด์อะไรที่แรงไปกว่า Metaverse ที่หลังจากมีข่าวออมา ก็เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลก โลกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล โลกที่จะทำให้เราเข้าไปทำกิจกรรมภายในนั้นได้โดยปราศจากข้อจำกัดเรื่องสถานที่หรือระยะทาง…
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Mwtaverse-06.jpg)
ซึ่งความพิเศษของ Metaverse นี้เอง ที่ทำให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ได้เดินหน้าเข้าสู่โลกเสมือนนี้อย่างเต็มที่ โดยถึงขั้นเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Meta เพื่อให้ดูเข้ากันกับ Metaverse และมันก็สะท้อนให้เห็นถึง การเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ภายใต้โลกเสมือนจริง ซึ่งมันเห็นได้ชัดตั้งแต่…
โรคโควิด-19 ระบาด และส่งผลให้มีการล็อกดาวน์กันอย่างทั่วโลก
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Mwtaverse-07.jpg)
หลาย ๆ สิ่งเริ่มปรับตัว เริ่มมีการพัฒนาระบบหรือโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถพาผู้คนเข้าไปอยู่ในโลก Virtual มากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยียังเข้ามาช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจ สร้างข้อจำกัดของทรัพยากรอย่างเช่น NFT ในระบบบล็อกเชน ที่ทำให้เกิดระบบนิเวศทางทรัพยากร ทำให้โลกเสมือนจริงน่าสนใจและเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
.
และจะเห็นได้เลยว่า มีการนำเอา Metaverse มาใช้ใน Case ต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการตลาดของเกมที่ในเกมจะมีระบบแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายของที่สร้างรายได้
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Mwtaverse-04.jpg)
การสร้าง Company Metaverse ที่ให้บริษัทต่าง ๆ สร้างโลกเสมือนของตัวเองขึ้นมาให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วม เช่น BMW
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Mwtaverse-05.jpg)
และ Microsoft จะมีการสร้างแอปพลิเคชันมากมายขึ้นมา เพื่อให้เราได้สร้างโลกเสมือนอีกโลกนึงขึ้นมาในตอนทำงาน เช่น การสร้างตัวอวตาร หรือการปฏิสัมพันธ์ใหม่ ๆ ในการประชุม หรือการทำงานของเราในโลกนั้น
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Metaverse-03.jpg)
รวมไปถึงแบรนด์ดังหลายแบรนด์ ก็ได้ปรับตัวเข้าสู่โลกเสมือนนี้กันไปแล้วไม่น้อย อย่าง Nike ที่ได้เข้าซื้อกิจการ RTFKT ผู้ผลิตรองเท้าผ้าใบเสมือนจริงในรูป NFT และเตรียมตัวให้บริการที่เชื่อมโยงโลกของกีฬา ความคิดสร้างสรรค์ การเล่นเกม และวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/Mwtaverse-08.jpg)
นอกจากนี้ ในเชิงการตลาดมูฟเมนต์ที่ผ่านมาที่เริ่มเห็นแล้ว คือ การร่วมมือระหว่าง Facebook Story กับ Ray-Ban เพื่อผลักดันให้เกิดเทคโนโลยี AR มากขึ้น, ในต่างประเทศมีการจัด Virtual Concert ของ Travis Scott ในเกม Fortnite หรืออย่างเคสของ KFC ในจีน ที่สร้าง Pocket Franchise ให้ทุกคนสามารถเปิดร้าน KFC บน WeChat App ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวต่อไปที่จะมี Virtual Franchise ใน Metaverse
สรุปก็คือ ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ แบรนด์จะเริ่มสร้าง Virtual Evidence มากขึ้น เหมือนกับการทำธุรกิจที่มีหน้าร้านแบบออฟไลน์ ยิ่งปรับตัวไวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ทำมันให้ได้ก่อนใคร เพราะมันจะกลายเป็นพื้นที่ทางการตลาดแห่งใหม่ในอนาคตอย่างแน่นอน
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/แบรนด์ต้องชูจุดยืน-01-scaled.jpg)
9. แบรนด์ที่จะอยู่ต้องชูจุดยืน
ในยุคที่สังคมบีบให้ แบรนด์หรือธุรกิจต่าง ๆ แสดงจุดยืนทางความคิดมากขึ้น ซึ่งเรื่องราวที่ว่านั้น คือเรื่องอะไร ผมว่าเราทุกวันคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ มันไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคม (Social Impact) จุดยืนและการแสดงออกถึงประเด็นละเอียดอ่อนของโลก (World’s Tensions) ที่มีอยู่มากมายบนโลกใบนี้
.
อย่างเรื่องความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ), เรื่องภาวะโลกร้อน, เรื่องความเท่าเทียมกัน, เรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งผลกระทบของการแสดงและไม่แสดงออก
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2022/01/แบรนด์ต้องชูจุดยืน-02-scaled.jpg)
เราจะเห็นจากการถูกกดดันด้วยวิธีการที่เรียกว่า Cancel Culture หรือพูดง่ายๆ คือการแบนไม่สนับสนุนหรืออุดหนุนสินค้านั้นๆ อีก
.
ซึ่งทุกวันนี้เป็นแบบนั้นเยอะมาก สังคมออนไลน์นั้นรุงแรงจริง ๆ ทางแบรนด์เองก็ต้องวางแผนการรับมือเอาไว้ หรือการนำเอาจุดยืนเหล่านี้ไปใช้แสดงจุดยืนทางการตลาดเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์
.
เป็นไงกันบ้างครับ 9 เทรนด์ จุก ๆ กันไปเลย เริ่มตอนนี้ยังไม่สายนะครับ คว้าเทรนด์ไว้ให้ทัน แล้วคุณจะไม่มีวันหลุดออกจากวงโคจร ใครมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจ ที่คิดว่าปีนี้มันมาแน่!! คอมเมนต์บอกบุญเพื่อน ๆ กันได้เลยครับ
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
และหากมีคำถามอยากให้ช่วยเหลือด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ทั้งเรื่องเครื่องมือ (Media), เนื้อหา (Content) และ กลยุทธ์ (Strategy) สามารถเข้าไปทักสอบถาม อ.ออดี้ และผู้รู้มากมายใน “หมู่บ้านนินจา” LINE OpenChat
ติดตามอ่านความรู้ด้านกลยุทธ์การตลาดได้ในบทความครั้งต่อไป
กับ อ.ออดี้ – กิตติชัย ได้ใน Blog ของ นินจาการตลาด ที่นี่…
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)