อย่างที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วว่า Facebook เริ่มให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่ม หรือ Community มากขึ้น ซึ่ง Facebook Group ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์สำหรับการรวบรวมผู้คนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน มาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้สื่อสารกันได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งประเด็นสำคัญที่คนทำธุรกิจ ควรจะหันมาโฟกัสกับฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้นก็คือ การที่เราโพสต์แต่ละครั้งในกลุ่มนั้น โอกาสในการที่คอนเทนต์ของเราจะแสดงผลบนหน้าฟีดของคนที่อยู่ในกลุ่ม มีมากกว่าการโพสต์ปกติบนหน้าเพจเสียอีก
.
และเนื่องจากการที่คนเห็นโพสต์มากขึ้น ก็ย่อมมี engagement ที่มากขึ้นไปด้วย (ขึ้นอยู่กับ Value of Content ด้วยนะครับ) ซึ่งการที่โพสต์ของเรามี engagement ที่ดีนั้น algorithm ของ Facebook จะจดจำว่าคอนเทนต์ของเรามีคุณภาพ และโพสต์ต่อ ๆ ไปของเราก็จะถูกนำไปแสดงผลผ่านหน้าฟีดอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
.
แต่ตอนนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Privacy ของ Facebook Group เล็กน้อย จากปกติที่จะมีประเภทของกลุ่มอยู่ 3 แบบ คือ กลุ่มสาธารณะ (Public) กลุ่มปิด (Closed Group) และกลุ่มลับ (Private Group) จะลดเหลือเพียง 2 แบบ แล้วมันจะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่านะ ถ้าอยากรู้ก็กดอ่านต่อได้เลย…
อ่านต่อ
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
เร็ว ๆ นี้ Facebook กำลังจะมีการอัปเดต Privacy ใหม่ของ Facebook Group จากเดิมที่มีกลุ่ม 3 แบบ จะปรับลดเหลือเพียง 2 แบบเท่านั้น ได้แก่ กลุ่มสาธารณะ (Public) และกลุ่มส่วนตัว (Private) มาดูกันดีกว่าว่า กลุ่มสองรูปแบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
กลุ่มสาธารณะ (Public)
.
มาเริ่มที่กลุ่มสาธารณะกันก่อน ชื่อก็บอกอยู่ว่าสาธารณะ ก็แปลว่าไม่ว่าใครก็ตามสามารถเสิร์ชเจอได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงสามารถเห็นโพสต์และคอมเมนต์ต่าง ๆ ของสมาชิกภายในกลุ่ม และเห็นลิสต์รายชื่อสมาชิกภายในกลุ่มได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มมาก่อน (แต่ไม่สามารถโพสต์หรือคอมเมนต์ในกลุ่มได้ หากไม่ได้เป็นสมาชิก)
.
ข้อดีของกลุ่มสาธารณะก็คือ สามารถค้นหาได้ง่าย สมาชิกใหม่ ๆ ก็สามารถเข้าร่วมกลุ่มได้ง่าย และโพสต์ที่เผยแพร่ลงไปในกลุ่มก็อาจจะได้ Reach และ Engagement ที่เยอะกว่าปกติ เพราะใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้นั่นเอง
![กลุ่มสาธารณะ](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/08/Public-Group-1024x1024.png)
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
กลุ่มส่วนตัว (Private)
.
กลุ่มนี้ก็จะมีความลึกลับซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เพราะสามารถตั้งค่าให้ไม่สามารถค้นหาเองที่ช่องค้นหา คือไม่เจอกลุ่มเหล่าก็ได้นี้นะ รวมถึงตั้งค่าให้ผู้ที่จะเข้าร่วมกลุ่มได้ก็ต่อเมื่อถูกรับการเชิญ (Invite) เท่านั้น นอกจากนี้ จะมีเพียงสมาชิกในกลุ่มเท่านั้นที่สามารถเห็นโพสต์และคอมเมนต์ต่าง ๆ ของสมาชิกภายในกลุ่ม รวมไปถึงลิสต์รายชื่อสมาชิกภายในกลุ่มด้วย
.
ข้อดีของกลุ่มส่วนตัวก็คือ เรามักจะได้ engagement หรือ lead ที่มีคุณภาพ เพราะการที่เขาอยากจะเข้าร่วมกลุ่มลับนี้ แปลว่าเขาต้องรู้จักและสนใจเราในระดับนึงแล้ว กลุ่มนี้จึงเปรียบเสมือนการได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน แบบคนที่รู้จักกันแล้วนั่นเอง แต่ข้อเสียคือด้วยความที่มันค้นหาไม่เจอนี่แหละ ก็อาจจะทำให้คนทั่วไปไม่รู้ว่ามีกลุ่มนี้อยู่ คงต้องอาศัยการโปรโมทเล็กน้อย เพื่อเชิญให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมกลุ่มกัน
.
และการที่มันเป็นกลุ่มส่วนตั๊วส่วนตัวขนาดนี้ คอนเทนต์ในกลุ่มก็ต้องมีคุณภาพ และมีความ exclusive ด้วยนะครับ ให้สมกับที่เป็นกลุ่มส่วนตัวสักหน่อย ไม่งั้นสมาชิกอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาได้ว่า แล้วทำไมจะต้องตั้งเป็นส่วนตัว ถ้าเนื้อหาธรรมดาแบบนี้
![กลุ่มลับ](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/08/Private-Group-1024x1024.png)
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
หากต้องการเปลี่ยนความเป็นส่วนตัว Group ของคุณ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
จากฟีดข่าว ให้คลิก “กลุ่ม” ที่เมนูด้านซ้ายแล้วเลือกกลุ่มของคุณ
คลิก
“เพิ่มเติม” จากนั้นเลือก “แก้ไขการตั้งค่ากลุ่ม“
เลื่อนลงมาที่ “ความเป็นส่วนตัว” แล้วคลิก “เปลี่ยนแปลงการตั้งความเป็นส่วนตัว“
เลือก “สาธารณะ” หรือ “ส่วนตัว” จากนั้นคลิก “ยืนยัน“
เลื่อนลงมา แล้วคลิก “บันทึก”
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
แต่การเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ Facebook Group นั้น ก็มีข้อจำกัดอยู่นิดหน่อย คือ ถ้าคุณอยากเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของ Group สามารถทำได้ 1 ครั้ง ในทุก ๆ 28 วัน และถ้าเปลี่ยนไปแล้ว แล้วอยากจะให้มันกลับไปเป็นแบบเดิม สามารถเปลี่ยนกลับได้ภายใน 24 ชั่วโมง
.
นอกจากนี้ กลุ่มส่วนตัวที่มีสมาชิกมากกว่า 5,000 คน ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นกลุ่มสาธารณะได้นะจ๊ะ ส่วนกลุ่มที่มีสมาชิกน้อยกว่า 5,000 คน สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของกลุ่มเป็นสถานะใดก็ได้ (กลุ่มสาธารณะหรือกลุ่มส่วนตัว)
.
ปล. สมาชิกทุกคนในกลุ่มของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณเปลี่ยนความเป็นส่วนตัว
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
การที่ต้องตัดสินใจเลือกว่า จะเปิดกลุ่มรูปแบบไหนดี ระหว่างกลุ่มสาธารณะกับกลุ่มส่วนตัว บอกเลยว่าขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของเราด้วยว่า ต้องการสื่อสารอะไรและสื่อสารกับใคร ถ้าเป็นกลุ่มสาธารณะ ก็คือเราต้องการที่จะแชร์ข้อมูลข่าวสารไปในวงกว้าง ใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มส่วนตัว จะเน้นการแชร์ข้อมูลพิเศษ ๆ แบบรู้ก่อนใคร ให้กับคนวงในหรือแฟนคลับเราจริง ๆ ไม่ได้ต้องการสื่อสารให้คนนอกรับรู้ ต้องการสื่อสารภายในกลุ่มคนที่รู้จักซึ่งกันและกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเท่านั้น ก็ลองไปพิจารณากันดูนะครับว่า อยากสื่อสารรูปแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าหากอยากเปิด Facebook Group ของตัวเอง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/help/
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)