Strategy

ทำไม ยาคูลท์ ถึงขายดี ทั้ง ๆ ที่ไม่มีโฆษณา

ทำไม ยาคูลท์ ถึงขายดี ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการโฆษณา หรือแทบจะไม่ได้ใช้งบการตลาดอะไรเลย แต่ยาคูลท์กลับมียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทะลุหลักพันล้าน นมเปรี้ยวราคาขวดละไม่ถึงสิบบาท ทำไมถึงมีหลายได้ปีละหลายพันล้าน ! ทุกคนสงสัยเหมือนผมไหมครับว่า ยาคูลท์ทำได้อย่างไร ?

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมยาคูลท์ ถึงขายดีทั้งๆที่ไม่มีโฆษณา ทั้ง ๆ ที่หลายเเบรนด์พยายามดิ้นรนกันสุดฤทธิ์เพื่อที่จะตอบสนองให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค

หลาย ๆ แบรนด์ต้องจ่ายเงินมหาศาล ไปกับค่าโฆษณา ค่าจ้างพรีเซ็นเตอร์ เพื่อให้เเบรนด์เป็นที่รู้จัก พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ทันสมัยออกมา เพื่อดึงดูดเเละสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้เพิ่มขึ้นเเละมั่นคง

เเต่ยาคูลท์นั้น ไม่ต้องจ่ายเงินมหาศาลขนาดนั้น เพื่อเปิดตัวสินค้า เเละไม่ต้องเสียจ้างพรีเซ็นเตอร์ เเละทำโฆษณาให้วุ่นวายเลย เเต่ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

อ่านต่อ

ถ้าหากลองย้อนไปดูรายได้ของยาคูลท์ จะพบว่า นมเปรี้ยวขวดเล็ก ๆ เเค่นี้ เเต่ทำไมสามารถทำยอดขายได้หลักพันล้าน

ผลประกอบการของ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด

ปี 2561 รายได้ 2,409 ล้านบาท กำไร 358 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้ 2,496 ล้านบาท กำไร 295 ล้านบาท

ปี 2563 รายได้ 2,354 ล้านบาท กำไร 308 ล้านบาท

ผลประกอบการของ บริษัท ยาคูลท์เซลส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด

ปี 2561 รายได้ 4,862 ล้านบาท กำไร 957 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้ 5,001 ล้านบาท กำไร 959 ล้านบาท

ปี 2563 รายได้ 4,681 ล้านบาท กำไร 921 ล้านบาท

บริษัทแรกเป็นบริษัทผลิต ส่วนบริษัทที่สองเป็นบริษัทขายส่งให้สาวยาคูลท์

น่าเเปลกใจตรงที่ นมเปรี้ยวราคาขวดละไม่ถึงสิบบาท ทำไมถึงมีรายได้ปีละหลายพันล้าน

ยาคูลท์ทำได้อย่างไร ?

เรื่องมันเริ่มที่ คุณประพันธ์ เหตระกูล เดินทางไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น และมักมีอาการท้องเสียจากการรับประทานอาหาร จึงมีคนแนะนำให้ลองดื่มยาคูลท์ ซึ่งมีจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า เพื่อรักษาอาการดังกล่าว ผลปรากฏว่า ดื่มแล้วทำให้อาการท้องเสียดีขึ้น พอกลับมาเมืองไทยจึงชักชวนนายทุนของญี่ปุ่น มาร่วมก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ ในไทย

ในปี พ.ศ. 2514 นมเปรี้ยวยาคูลท์ ก็เริ่มขายในไทยครั้งแรก พร้อม ๆ กับการเปิดตัวสาวยาคูลท์

ผ่านมา 50 ปีเเล้ว ยาคูลท์เเทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ตั้งเเต่ตัวสินค้าจนถึงกลยุทธ์ทางการตลาด เเละสาวยาคูลท์ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เเละยังเปิดรับสมัครเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ซึ่งสวนกระแสเศรษฐกิจในช่วงโควิด ที่หลายธุรกิจต้องปลด พนักงาน

ทำไมยาคูลท์ถึงอยู่ได้ ?

คงเป็นเพราะ ภาพจำที่ชัดเจนของ “สินค้า” นมเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังมีความยูนีคสูง เพราะมีแค่รสชาติเดียว คือ รสชาติออริจินัล

จนเมื่อปี 2561 ยาคูลท์ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ “ยาคูลท์ไลท์” สูตรน้ำตาลน้อยเป็นครั้งเเรก เพื่อตอบโจทน์เทรนด์สุขภาพที่มาเเรง

นอกจากสินค้าจะเป็นเอกลักษณ์เเล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดของยาคูลท์ ก็ไม่เหมือนใคร ต่อให้ช่องทางออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากแค่ไหน เเต่ ยาคูลท์ ก็ยังให้ สาวยาคูลท์ เป็นช่องการตลาดที่สุดคลาสสิกของเเบรนด์

ใครจะคิดว่ากลยุทธ์การขายนี้ จะเป็นสิ่งที่สร้างยอดขายให้ยาคูลท์อย่างต่อเนื่อง เพราะจะว่าไปแล้ว

สาวยาคูลท์ ก็ไม่ต่างจากธุรกิจดิลิเวอรีที่กำลังเติบโตอยู่ในตอนนี้ เพียงเเค่เปลี่ยนจากส่งอาหารมาส่งยาคูลท์ถึงหน้าบ้านแทน แถมยังสามารถสั่งล่วงหน้า หรือนัดหมายวันมาส่งได้ด้วย

อีกหนึ่งที่เหตุผลที่ทำให้ยาคูลท์ยังได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง คือ ยุคนี้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น จึงมองหาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ เเละน่าเชื่อถือ ซึ่งยาคูลท์มีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องการดูเเลสุขภาพอยู่แล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้บริโภคสนใจเเละยังให้ความนิยมอยู่

ความสำเร็จของยาคูลท์ ทำให้เห็นว่า ต่อให้เราไม่มีเเผนการที่ซับซ้อน เพียงมีแค่สุดยอดสินค้า และรักษามาตรฐานสินค้า โลโก้ รสชาติ นั้นเอาไว้ ก็ทำให้ลูกค้าไม่เปลี่ยนใจไปไหนแล้ว