ช่วงวันหยุดยาวๆ อย่างเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ หลายคนออกจากเมืองใหญ่ไปต่างจังหวัดเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัว บางคนอาจจะเดินทางท่องเที่ยว หรือแม้แต่บินออกนอกประเทศก็มีเยอะมาก นินจาการตลาดเลยแว๊บมาเล่าเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้เป็นวิธีการยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมาย ให้ได้ ให้โดนในช่วงที่คนไม่อยู่กับที่แบบนี้ ส่วนจะทำยังไงนั้น… ตามอ่านกันเลยครับ…

ทำยังไงจะให้ยิงโดนกลุ่มเป้าหมายที่กระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง ในช่วงหยุดยาวๆ แบบช่วงสงกรานต์นี้
.
วันนี้จะมาเล่าถึงเทคนิคการใช้เครื่องมือยิงโฆษณาบนเฟซบุ๊กอย่าง Ad Manager ที่มีเมนูตัวนึงสำหรับไว้ให้เลือกพื้นที่ของกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการยิงโฆษณาเข้าหา ซึ่งหลายคนน่าจะพอทราบกันบ้างแล้วว่ามันสามารถกำหนดจังหวัด อำเภอ พื้นที่ เขตแดน หรือแม้แต่การปักหมุดก็ยังทำได้

การปักหมุดพื้นที่โฆษณามีให้เลือก 4 ประเภท ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็อาจจะได้คนที่ไม่เหมือนกันได้นะ
.
ปกติแล้วหลายคนก็น่าจะใช้เมนูนี้กันอยู่บ้างแล้ว เพราะถือเป็นเมนูพื้นฐานของการยิงโฆษณาที่ต้องทำกันเป็นทุกคน แต่ก็เชื่อว่าหลายคนก็ไม่เคยสังเกตุเห็นครับว่าฟีเจอร์นี้มีให้เลือกประเภทของพื้นที่ที่ได้ทำการเลือกหรือปักหมุดเอาไว้เป็นถึง 4 ประเภท ซึ่งมันช่วยทำหใ้เราสามารถแยกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราได้ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่

1. ทุกคนในตำแหน่งที่ตั้งนี้ (Default)
.
Facebook อธิบายไว้ว่า “ผู้ที่มีบ้านหรือมีตำแหน่งที่ตั้งล่าสุดอยู่ในพื้นที่ที่เลือกไว้”
.
หมายถึง ใครก็ตามที่เป็นคนที่นี่ ระบุกับเฟซบุ๊กไว้ว่าฉันเป็นคนที่นี่นะ ถ้ามีใครยิงโฆษณามายังพื้นที่ แล้วเลือกเมนูนี้ ก็จะโดนทั้งหมด (ตามจำนวนเงินที่มีพอให้แสดงผล)
.
และรวมถึงใครก็ตามที่กำลังอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ณ ขณะที่โฆษณานี้กำลังทำงานอยู่ ก็จะโดนทั้งหมด (ตามจำนวนเงินที่มีพอให้แสดงผลเช่นกัน)
.
ถ้าอย่างนั้น พูดโดยรวมแล้วคือ ถ้าเลือกอันนี้จะโดนแบบกว้างเลยครับ คือทั้งคนพื้นถิ่นและคนผ่านมาในพื้นที่นี้ทั้งหมด
.
เหมาะมากกับการโปรโมทงานเทศกาล กิจกรรม ที่ต้องการเชิญชวนผู้คนที่อยู่ตรงนั้นทั้งหมดเข้าร่วม
.
อ้อลืมบอกไป ปกติแล้ว Facebook จะกำหนดให้ข้อนี้เป็น Default นะครับ ถ้าคิดว่าการเลือกแบบนี้ตรงกับเป้าประสงค์แล้ว ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไรมันนะครับ

2 ผู้ที่อาศัยอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งนี้
.
Facebook อธิบายไว้ว่า “ผู้ที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ที่เลือกไว้”
.
ข้อนี้ถ้าพูดภาษาให้ง่ายๆ แล้วก็คือ มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อแรกนั่นเอง โดยที่ตัดเอาคนที่ไม่ได้มีบ้านอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ออกไป เป็นคนที่เข้ามาอยู่บริเวณนั้นในช่วงเวลานั้นเท่านั้น ซึ่งจะไม่ถูกนับรวมมาด้วย
.
เพราะฉะนั้น
.
ใครก็ตามที่เป็นคนในพื้นที่นี้ โดยเคยระบุกับเฟซบุ๊กไว้ว่าฉันเป็นคนที่นี่นะ ถ้ามีใครยิงโฆษณามายังพื้นที่ แล้วเลือกเมนูนี้ ก็จะโดนทั้งหมด (ย้ำนะ ว่าจะยิงตามจำนวนเงินที่มีพอให้แสดงผล ไม่ใช่ว่ามีคนที่มีบ้านอยู่ที่ 100,000 คน จะโดนหมดหากเราใช้เงินแค่เพียง 30 บาท… เข้าใจนะ…)
.
การเลือกหัวข้อนี้ ก็จะเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้คนในระแวกพื้นที่นั้นๆ ในขณะที่ผู้คนเหล่านั้นอาจจะกำลังเดินทางไปที่อื่น หรืออาจจะยังคนอยู่ในพื้นที่นั้นอยู่ด้วยก็ตาม
.
การยิงโฆษณาแบบนี้จะเหมาะกับธุรกิจพื้นถิ่นที่ได้รายได้กับคนพื้นถิ่นเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้แบรนด์ยังคงถูกจดจำได้ในระหว่างนี้นั้นเอง
.
ถ้าเราเป็นแบรนด์สินค้าที่ขายกับลูกค้าพื้นถิ่งระแหวกที่แบรนด์ตั้งอยู่ การเลือกแบบนี้ก็เหมาะสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าของเราที่อาจจะกำลังเดินทางไปที่อื่นในช่วงระยะเวลานั้นๆ
.
กรณีพรรคการเมืองก็ควรใช้วิธีการนี้นะครับ เพราะจะสื่อสารกับคนพื้นที่จริงๆ ถึงแม้จะอยู่เดินทางไปถิ่นอื่นๆ ก็ตาม แต่โฆษณาของผู้สมัคร สส. เขตนั้น ก็จะตามไปแสดงให้เห็นได้อยู่

3 ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่ตั้งนี้เมื่อไม่นานมานี้
.
“ผู้ที่มีตำแหน่งที่ตั้งล่าสุด อยู่ในพื้นที่ที่เลือกไว้”
.
อันนี้ก็เช่นกันครับ เป็นส่วนหนึ่งของข้อแรก เพียงแต่ตรงข้ามกับข้อสอง
.
นั่นหมายถึงคนที่อยู่ที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้แต่ไม่ใช่คนพื้นถิ่นนั่นเองครับ ถ้าอยากให้คนที่เคยมาเยือนที่ตั้งนี้กลับมาอีกครั้ง ก็ต้องใช้เมนูนี้เลยครับ เหมาะมากใช้กับธุรกิจที่ต้องการให้ผู้คนกลับมาเยือนอีกครั้งครับ
