ก่อนจะสร้าง Value Content ต้องเข้าใจก่อน
Value Content คือ คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีคุณค่า และ สามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้ โดยสำหรับเฟสบุ๊คแล้ว Challenge สำคัญเลยคือการหยุดนิ้วของกลุ่มเป้าหมาย เรามีเวลาไม่ถึง 1.8 วินาทีก่อนที่กลุ่มเป้าหมายจะเลื่อนผ่านไป นอกเหนือจากทำให้คอนเทนต์เราไปโผล่ที่หน้าฟีดของเขาแล้ว ยังต้องทำอย่างไรก็ได้ให้เราหยุดนิ้วของเขาใว้ที่คอนเทนต์เรา ไปดูกัน
อ่านต่อ
ก่อนอื่นเลยเราต้องตั้ง Mindset ของเรา ก่อนที่จะเริ่มทำ Value Content ว่า Content ที่เราจะมอบให้กลุ่มเป้าหมายของเรานั้น เราตั้งใจจะให้เกิดประโยชน์กับเขา ไม่ใช่จะมาขายของอย่างเดียว นั่นจะทำให้เราทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
อันดับแรกเราต้องรู้ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราหน้าตาเป็นอย่างไร? การใช้ชีวิตของเขาเป็นอย่างไร? และเขามีปัญหาอะไร?(หลักการวิธีคิด อยู่ในเรื่อง Customer Persona) ยกตัวอย่างเช่น คุณขายครีมกันแดดคุณภาพระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ คุณต้องคิดให้ออกก่อนว่าลูกค้าของเราเป็นผู้หญิง วัยทำงาน, พนักงานออฟฟิศ อายุประมาณ 27-35 ปี ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ มีไลฟ์สไตล์ชอบดูแลตัวเอง ห่วงเรื่องความสวยความงาม(สามารถศึกษาต่อได้ในเรื่อง Audience Insight)
ดังนั้นแล้ว Content สำหรับคนกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร ลองทำตามขั้นตอนดังนี้เลย
1. แยก Function และ Benefit ของสินค้าหรือบริการของเราให้ออกก่อน
.
Function คือ คุณสมบัติของสินค้า หรือ บริการของเรา
Benefit คือ คุณประโยชน์ของสินค้า หรือ บริการของเรา
ในกรณีตัวอย่างของเรานั้น
Function คือ เนื้อครีม,SPF,กลิ่น
Benefit คือ การกันแดด,ทำให้ตัวหอม
2. นำ Benefit มาทำ Value Content ส่วน Function นำไปทำ Content ปิดการขาย (ในบทความต่อ ๆ ไปเราจะมาเขียนเรื่องนี้)
.
เพราะส่วนใหญ่แล้วBenefit มักจะเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้ลูกค้า ดังนั้นการที่เรากำหนด Function และ Benefit ขึ้นมา จะทำให้เราทำคอนเทนต์ได้ตรงตามปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เราเห็นภาพในการทำคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น บางคนที่ทำคอนเทนต์ขึ้นมาแล้วเกิดการแชร์มากมาย ก็ใช่ว่าจะตรงกลุ่มเป้าหมาย อาทิเช่น พวกคอนเทนต์คำคม ถึงจะได้ยอดแชร์ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถทำอะไรกับยอดตรงนั้นได้อีก ในกรณีตัวอย่างของเรา Benefit คือ การกันแดด, ทำให้ตัวหอม ดังนั้นแล้วกรอบของ Value Content ของเราควรออกมาในรูปแบบของวิธีการกันแดด วิธีป้องกันผิวจากอันตรายของแสงแดด
3. มอง Content ในมุมที่แตกต่างจากที่เคยมีในตลาด
.
ข้อนี้เป็นข้อที่ยากที่สุด แต่ถ้าหากฝึกคิด และฝึกสังเกตก็จะสามารถมองในมุมที่แตกต่างกันออกไปได้ อย่างในกรณีที่เรากล่าวถึง คอนเทนต์การป้องกันผิวจากแสงแดดใน facebook มีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด เราจะทำให้แตกต่างได้ด้วยการมองไลฟ์สไตล์ของเขา สภาพแวดล้อมของเขาเข้ามาผนวกรวมกัน จากที่กล่าวไปข้างต้น ยิ่งเรารู้ Insight ของกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ เรายิ่งสามารถทำคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ และโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
