มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกแล้วครับ หลายคนคงได้เริ่มทราบกันแล้วว่า LINE@ กำลังจะเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ จะเรียกขนาดนั้นก็ได้อยู่นะ เพราะมีการประกาศออกมาจาก LINE Thailand แล้วว่า 18 เมษายน 19 นี้ เตรียมพบกับ LINE โฉมใหม่ ในชื่อ LINE OFFICIAL ACCOUNT
นี่เรากำลังจะได้เป็นเจ้าของ LINE OFFICIAL เลยรึนี่
.
ที่ต้องเอ่ยปากถามแบบนี้น่าจะเป็นเพราะว่าราคาของการใช้บริการ LINE OFFICIAL นั้นค่อนข้างสูงมาก แบบที่ SME รายย่อยไม่สามารถเอื้อมถึงได้จริงๆ จะมีแต่ Corporate ใหญ่ๆ เท่านั้นที่เลือกใช้เครื่องมือนี้ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
.
ก็มีแต่ LINE@ นี่แหล่ะที่เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ SME รายย่อยสามารถเอื้อมถึง นำมาใช้หากินกันได้ในราคาสุดแสนประหยัด แค่ใช้แบบแพคเกจฟรีก็สามารถสร้างรายได้ประมาณนึงแล้ว ส่วนแพคเกจที่เสียเงินก็จ่ายไม่ได้มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับการต้องไปเลือกใช้บริการ LINE OFFICIAL
.
แต่สิ่งที่ LINE ได้ประกาศออกมานั้น ก็ทำเอา SME รายย่อยตื่นเต้นกันทั้งประเทศ เพราะบอกว่า LINE@ จะเปลี่ยนชื่อไปเป็น LINE OFFICIAL ACCOUNT ที่มีแนวโน้มสูงมากที่ฟีเจอร์ต่างๆ ที่อยู่บน LINE OFFICIAL จะกลายมาเป็นฟีเจอร์ที่ SME รายย่อยจะได้ใช้งานกันได้บ้าง
.
ซึ่งจริงๆ แล้วเท่าที่นินจาการตลาดติดตามเรื่องนี้มา LINE ได้มีการวางแผนมาเนิ่นนานข้ามปีแล้ว สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ด้วยความที่ว่า LINE ต้องการเขาถึงผู้บริโภคมากขึ้น เอาใจทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้รายย่อย ผู้ประกอบการ ภาครัฐบาล แบบว่าตั้งใจที่จะครองใจให้ได้ทั้งหมด
.
LINE Redesign กลยุทธ์กำหนดทิศทางใหม่ของ LINE Corporation
.
ถ้าใครยังพอจำได้ เมื่อปลายปีที่แล้ว LINE Corporation จากญี่ปุ่น ได้นำแนวคิดที่ชื่อว่า Redesign มาเพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น (ในงาน LINE Conference 2018)
.
ซึ่งมีแนวคิดพัฒนาถึง 6 ด้านด้วยกัน ในเรื่องนี้ผมยังไม่ขอพูดถึงนะครับ จะพูดถึงเพียงเรื่องของการที่ LINE@ กำลังจะกลายเป็น LINE OFFICIAL ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาที่ได้นำเสนอมาตั้งแต่ปีที่แล้วในงานนี้
.
แนวคิด Redesign ตั้งแต่ปีก่อน ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนโฉม LINE@ เป็น LINE OFFCIAL ACCOUNT ที่พูดไว้เมื่อปลายปี 2018
มีอะไรบ้างที่ LINE@ ในโฉมใหม่ที่ชื่อว่า LINE OFFICIAL ที่เราๆ SME จะมีโอกาสได้ใช้กัน
.
เปลี่ยนชื่อแล้วมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง มาดูกันครับ
1. หน้าตาสวย/ หล่อ ดูดีขึ้น
.
LINE บอกว่า “มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการแชท พร้อมหน้าจัดการที่ใช้งานขึ้น โดยใช้ฟีเจอร์เดียวกันในทุกๆ แพ็กเกจ และสามารถปรับดีไซน์ของแอพฯ และหน้าจัดการคอนเทนต์ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น”
1.1 ยังคงฟีเจอร์ทุกอย่างไว้เหมือนเดิม แค่หน้าตา หน้าจอการใช้งานดีไซน์เปลี่ยนแปลงไป (สวยขี้น)
.
อันนี้คือสิ่งที่ LINE บอกเอาไว้ครับ
.
“LINE Official Account ยังมีฟีเจอร์ยอดฮิตของ LINE@ เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น Broadcast, Rich Content, E-Coupon, หรือบัตรสะสมแต้ม บนหน้าการจัดการคอนเทนต์และแอพพลิเคชันดีไซน์ใหม่ ทั้งยังเพิ่มฟีเจอร์ Preview ทำให้เห็นภาพหรือข้อความแบบที่ลูกค้าจะได้รับด้วย”
.
กล่าวโดยสรุปก็คือ หน้าตาการจัดการดีไซน์ให้ดูดีขึ้น แต่ยังคงฟีเจอร์เดิมจาก LINE@ ไว้ทั้งหมด และยังมีของแถมเพิ่มขึ้นมาอีกคือฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้งาน (Admin) เห็นภาพข้อความที่ลูกค้าได้รับด้วย
1.2 Chat โฉมใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยจัดประเภทลูกค้าได้ง่ายขึ้น
.
อันนี้คงเป็นกันบ่อยที่จำไม่ได้ว่าใครคนไหนที่ทักมาใน LINE@ นั้น เป็นลูกค้าเกรดไหน ชั้นไหน เพราะมันมีผลต่อการตัดสินใจในเชิงการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เช่น การเลือกให้ส่วนลด หรือให้สิทธิพิเศษบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว สำหรับลูกค้ารายพิเศษ บ่อยครั้งที่เราต้องย้อนกลับไปดูข้อความเก่าๆ ที่ได้คุยกันไว้กับลูกค้ารายนั้น เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ตัดสินใจ เพราะจำไม่ได้ว่าใครเป็นใครนั่นเอง (คนทักเยอะก็งี้)
.
นี่คือสิ่งที่ LINE ได้อธิบายไว้ครับ
.
“1:1 CHAT จะสามารถเพิ่ม Tag ให้ติดตามลูกค้า โดยสามารถเพิ่มได้เองตามคำที่ต้องการ เช่น จอง โอนแล้ว หรือ VIP เป็นต้น หรือจะเลือกจากที่มีบนระบบก็ได้ พร้อมทั้งเก็บประวัติแชทได้ยาวนานยิ่งขึ้น และยังสามารถเลือก Back Up เก็บไว้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Group Chat เพื่อให้การพูดคุยสะดวกมากยิ่งขึ้น”
.
ซึ่ง Chat โฉมใหม่นี้ช่วยทำให้เราสามารถแยกลูกค้าระดับต่างๆ ด้วยการติดแท็คที่แตกต่างของแต่ละกลุ่มแต่ละคนได้ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องตอบไลน์กันอยู่ทุกวันนะครับ
.
คุยแบบกลุ่มใน LINE@ ได้
.
การคุยแบบกลุ่มใน LINE ถือเป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ผู้ใช้นิยมกันมาก เพราะสามารถสื่อสารพร้อมๆ กันได้ทีละหลายๆ คน ซึ่งอันนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ LINE เองเติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงแรกของการก่อตั้ง ในสมัยที่เกิดเหตุการณ์ซึนามิที่ญี่ปุ่นในปี 2011 ที่ผู้คนใช้การสื่อสารแบบกลุ่มนี้แจ้งข่าวอัพเดตระหว่างกันได้รวดเร็วกว่าการส่งอีเมล์ (ตอนนั้นการส่งอีเมล์ลูปยังเป็นที่นิยมอยู่มากแต่ติดปัญหาเรื่องการใช้เครื่องมือสื่อสาร LINE จึงเป็นทางเลือกที่ผู้คนในตอนนั้นชื่นชอบ เพราะง่าย เร็ว สะดวก และสื่อสารกับคนหมู่มากได้ในคราเดียวที่ส่งข้อความ)
.
จะบอกอะไรเหรอ ก็จะบอกว่า LINE@ สามารถเข้าไปคุยในฐานะคนๆ นึงในกลุ่มต่างๆ ได้ด้วยนะ ว้าว… ไหมล่ะ
.
จะแพ็คเกจไหนก็ใช้ฟีเจอร์เหมือนกันทั้งหมด ไม่แบ่งแยกแล้ว
.
ฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ทาง LINE บอกว่า ทุกๆ แพ็คเกจจะได้ใช้เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งแต่ก่อนฟีเจอร์บางอย่างจะไม่สามารถใช้ได้กับแพ็คเกจระดับล่างๆ ที่จ่ายค่าบริการใช้งานต่ำกว่า
.
อันนี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่ SME น่าจะชื่นชอบกันอีกเรื่องหนึ่งเลย
2. ใส่ใจในข้อมูล CRM ที่ดีขึ้น.
.
ถ้าตามรายละเอียดที่ทาง LINE ได้บอกเอาไว้ก็คืออันนี้ครับ
.
“เพิ่มหน้า Dashboard ที่สรุปข้อมูลสถิติต่างๆ มาให้ดูง่ายยิ่งขึ้น ทั้งข้อมูล Follower โพสต์ต่างๆ และแชท”
.
ดูแล้ว LINE น่าจะเริ่มใส่ใจและให้ความสำคัญกับข้อมูลมากขึ้น มีกราฟการวิเคราะห์ข้อมูลที่แบ่งตาม Target ต่างๆ เพื่อให้การ Monitor ทำได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
.
สถิติแบบแบ่งตามเพศ, อายุ และระบบปฏิบัติการยังมีอยู่เหมือนเดิม
.
เดิมทีเดียวผู้ที่ใช้แพ็คเกจ LINE@ ระดับกลางๆ ขึ้นไป ก็จะสามารถเห็นข้อมูลสถิติได้อยู่แล้ว เช่นการดูปริมาณและสัดส่วนของ Gender (เพศ), Age (อายุ) และ OS (ระบบปฏิบัติการ) โดยมีหน้าตาลักษณะดังภาพที่แสดงด้านล่าง
.
มันก็ยังคงจะมีอยู่ต่อไปนะครับ ไม่ได้หายไปไหน ยังสามารถทำการเลือกบอร์ดแคสไปยังกลุ่มที่ใช้ได้เหมือนเก่า
.
ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกแพ็คเกจจะสามารถเข้าถึงสถิติเพศและอายุได้ทั้งหมดแล้วนะครับ ยังไงฝากใครเช็คให้ผมหน่อยนะ แล้วมา Comment ให้เพื่อนๆ ได้อัพเดตพร้อมๆ กับผมไปด้วยเลยนะ
.
สรุปเป็นกราฟให้เห็นภาพง่ายขึ้นก่อนวางกลยุทธ์ในการทำ Broadcast ได้ดีกว่าเดิม
.
ทาง LINE ได้ระบุไว้ว่า
.
“ปรับการนำเสนอสถิติทั้งหมด เช่น จำนวน Follower จำนวนข้อความ Broadcast จำนวนข้อความแชท หรือจำนวน Impression และการมีส่วนร่วมของแต่ละโพสต์บน Timelime เป็นต้น โดยรวบรวมไว้ให้การวิเคราะห์ง่ายยิ่งขึ้น”
.
อันนี้ถือเป็นของเล่นใหม่เลยของผู้ที่ใช้ LINE@ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนจาก LINE@ มาเป็น LINE OFFICIAL ACCOUNT แล้ว ก็จะมีกราฟแบบนี้ไว้ให้ Monitor ด้วย สรุปเป็นกราฟข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ดูง่าย สำหรับนำมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อนำไปทำการ Broadcast ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. แพ็คเกจใหม่ จ่ายเท่าที่ใช้
.
ปกติแล้วการซื้อแพ็คเกจสำหรับการ Broadcast นั้นจะคิดแบบเหมาะรวม และสามารถส่งแบบไม่จำกัดข้อความ แต่จะจำกัดการส่งที่จะต้องไม่เกินจำนวนผู้ติดตามของแพ็คเกจที่ได้ซื้อไว้
.
แต่สำหรับรูปแบบใหม่นี้จะคิดแตกต่างไปจากเดิมครับ ซึ่งดูๆ แล้วก็น่าจะคุ้มค่าอยู่นะครับ แต่ก็มีแอบกังวลเล็กๆ ว่าจะส่งมากๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลจำนวนครั้งแบบที่เคยทำได้หรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการส่งอาจจะมากกว่าเดิมหรือเปล่า…
.
3.1 การนับจำนวน Broadcast แบบใหม่ ที่คุ้มค่ากว่าเดิม
.
ถ้าดูจากรูปที่ LINE ได้แสดงตัวอย่างเอาไว้นั้น จะเห็นว่าจำนวนข้อความแบบ LINE Redesign จะถูกนับเป็น Blast แทน จึงทำให้การส่งแต่ละครั้งนั้นมีจำนวนการคิดข้อความน้อยลง (หากแต่ละครั้งที่่ส่งเราส่งมากกว่า 1 Balloon)
.
แต่ก็ถูกจำกัดไว้ว่า การส่งแต่ละครั้งจะต้องไม่เกิน 3 บอลลูนเท่านั้น
.
ตรงนี้แหล่ะที่แอบกังวลเล็กๆ ว่าเราเองจะต้องทำการประเมินตัวเลขการบอร์ดแคสให้ดีๆ ในแต่ละเดือน เพราะถึงแม้จะมีจำนวนของ Blast มานับแทนจำนวนข้อความแล้ว แต่ก็ตัดเรื่องการบอร์ดแคสแบบ Unlimited ไป
.
3.2 ฟรี! Rich Content ทั้งหมด
.
อันนี้ผมว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ใช้ LINE@ ในการสื่อสารน่าจะถูกใจมิใช่น้อย เพราะแต่ก่อนการจะส่งข้อความแบบ Rich ได้นั้น จะต้องเสียเงินรายเดือนเท่านั้น ถึงแม้จะมีการปรับให้ใช้การส่งข้อความบอร์ดแคสแบบ Rich ได้ โดยเริ่มการจ่ายรายเดือนลงมาที่เริ่มต้นประมาณ 200 บาท ในแพ็คเกจที่ชื่อว่า Starter ก็ตาม แต่ถ้าต้องการที่จะใช้ฟีเจอร์ Rich Menu ก็ต้องจ่ายเงินถึง 2,000 บาท ให้กับ แพ็คเกจ Pro ด้วย
.
และถ้าหากต้องการจะส่งข้อความ Broadcast แบบ Rich VDO อันนี้ก็ต้องยอมจ่ายเงินกับแพ็คเกจสูงสุด Pro+ ถึงราวๆ 5,000 บาทเลยทีเดียว
.
ถ้าตอนนี้ทำได้ทั้งหมด ทั้ง Rich Message, Rich Menu และ Rich VDO โดยที่เลือกใช้แพ็คเกจไหนก็ได้นี่ มันก็เยี่ยมไปเลย… ใช่ม่ะ…
การย้ายไปใช้ระบบใหม่
.
ทาง LINE ได้ระบุไว้ว่า
.
“ผู้ใช้ปัจจุบันยังสามารถใช้ LINE@ ได้ตามเดิม โดยจะสามารถเลือกย้ายไประบบใหม่เริ่มได้ในเดือนพฤษภาคม โดยระบบจะเพิ่มปุ่ม ‘เปลี่ยนไปยังระบบใหม่/Start Using New Platform’ บน LINE@ MANAGER และแอพพลิเคชัน LINE@
สำหรับผู้ใช้ใหม่ที่สมัครตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2562 เป็นต้นไป จะสามารถใช้งานระบบใหม่ได้ทันที”
.
หมายเหตุ :
เมื่อเลือกย้ายไปยังระบบใหม่แล้ว จะไม่สามารถกลับมาใช้ระบบเดิมได้ ทั้งนี้ ผู้ติดตาม และชื่อ Premium ID จะคงอยู่ดังเดิม
QR Code ที่ดาวน์โหลดมาจากระบบ LINE@ จะสามารถใช้ได้จนถึง March 2563 หลังจากนั้น สามารถใช้ QR Code ที่มาจาก LINE Official Account แทน
เตรียมพร้อมเลยนะครับ หลังสงกรานต์นี้ เราก็จะได้เป็นเจ้าของ LINE OFFICIAL ACCOUNT ที่เปลี่ยนโฉมมาจาก LINE@ ที่เราคุ้นเคยกันแล้ว
.
ขอบคุณ cr. ข้อมูลจาก LINE for Business
ขอบคุณ cr. ข้อมูลจาก LINE for Business
ใครอยากฟัง อ.ออดี้ พูดถึงเรื่องนี้ใน LIVE ล่าสุด ก็เชิญรับชมรับฟังได้เลยครับ
.
จากเพจ นินจาการตลาด
ติดตามอ่านความรู้ด้านกลยุทธ์การตลาดได้ในบทความครั้งต่อไป
กับ อ.ออดี้ – กิตติชัย ได้ใน Blog ของ นินจาการตลาด ที่นี่…
