LINE MyShop เป็น Service ใหม่ที่ LINE เพิ่งออกบริการมาให้กับคนไทยได้ใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ จากพฤติกรรมของคนไทย ที่ชอบซื้อของออนไลน์เป็นอย่างมาก ทำให้ LINE เล็งเห็นถึงพฤติกรรมจุดนี้ของคนไทย ทำให้พัฒนา S-Commerce (Social Commerce) ของตัวเองขึ้นมา ที่เรียกว่า LINE MyShop
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
จะว่าไปแล้ว LINE MyShop จะไม่เรียกตัวเองว่าเป็น E-Commerce อย่างเต็มตัวซะทีเดียว ถึงแม้ฟีเจอร์ภายในจะออกแบบมาให้มีระบบตะกร้าสินค้า มีระบบคลังสินค้าที่ตัดสต๊อกได้ มีระบบการจ่ายเงินผ่านบัตร มีระบบการดูสถิติการซื้อหลังบ้าน ฯลฯ
.
ซึ่งถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์มาก แต่เป็นเพราะ LINEเป็นแอปที่ผู้คนนิยมไว้ใช้สื่อสารกันในสังคมออนไลน์ จึงทำให้ LINE มองว่า การเป็น S-Commerce น่าจะเป็น Segment ที่แข็งแรงเมื่อเทียบสู้กับ S-Commerce ที่ผู้คนเคยชินกันอย่าง Facebook หรือ Shopee
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
บางคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะยังแยกไม่ออกว่า S-Commerce กับ E-Commerce มันแตกต่างกันอย่างไร สรุปให้ง่าย ๆ แบบนี้นะครับ S-Commerce ก็คือ E-Commerce แต่ S-Commerce จะเป็น E-Commerce ที่ผู้คนในนั้นสามารถสื่อสารพูดคุยกันได้ หมายถึงเครื่องมือต้องออกแบบมาให้เป็นสังคมออนไลน์ และเป็นร้านค้าขายด้วย ซึ่ง ทั้ง Facebok, Shopee, LINE ก็ทำสิ่งนั้นได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะ เมื่อ LINE เปิดตัว LINE MyShop ขึ้นมา ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็น S-Commerce ที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ไปไกล
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
เอาล่ะครับ ถึงนาทีนี้แล้ว เราคงอยากรู้กันแล้วว่า LINE MyShop จะดีขนาดไหน และ จะสามารถมาแทน Lazada หรือ Shopee ได้หรือไม่ ? บทความนี้ นินจา การตลาด จะมาจับเทียบปอนด์ต่อปอนด์ให้ได้รู้กันว่าใครดีกว่าใคร !
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
1. สิ่งที่ Lazada หรือ Shopee และ LINE MyShop มี
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2020/04/Untitled-1-1-1024x1024.jpg)
สิ่งที่ทั้งหมดมีเหมือนกันนั่นคือ หน้าของการเลือกสินค้า ที่มีให้เลือกสินค้า สี ไซซ์ ลักษณะ ราคาที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากเป็น E-Commerce Platform ที่ออกแบบตาม UX/UI ของพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ ดังนั้นแล้วถ้าสังเกตจากหน้าการใช้งานแล้ว จะพบว่าทั้งหมดจะหน้าตาไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
ระบบการติดตามเลข Track หรือ การอัปสลิปต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ว่า LINE นั้นจะสามารถแจ้งเตือนมาที่ LINE ส่วนตัวได้เลย แต่ว่า Lazada หรือ Shopee นั้นต้องเข้าไปในแอป (หรือถ้าตั้ง Notification เอาไว้ก็จะแจ้งเตือนมาให้) เพื่อดูว่าเลข Track นั้นถูกอัปเดตแล้วหรือยัง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
2. สิ่งที่ Shopee หรือ Lazada มี และ LINE MyShop ไม่มี
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2020/04/Untitled-2-1024x1024.jpg)
แคมเปญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น 11.11 หรือ 12.12 ที่มีสินค้าจากร้านอื่น ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อมากมาย และมีโอกาสเข้าถึงคนได้มากกว่าเป็นจำนวนมาก (แต่ก็ไม่เหมาะกับสินค้าที่ไม่ต้องการแข่งขันกันในเรื่องของราคา) หรือแม้กระทั่ง Flash Sale ที่จะสามารถกระตุ้นให้เกิดยอดขายได้ง่ายกว่าการที่ลูกค้าต้องมาพูดคุยสอบถามเยอะ ๆ และไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทำให้อาจจะทำให้ลูกค้าลืมว่าเคยอยากได้นั่นเอง
แต่อย่าลืมว่า LINE ยังมีบริการอีกตัวที่เรียกว่า LINE Shopping มีแนวโน้มว่า ใครที่เปิดร้าน LINE MyShop และแต่งร้านค้าไว้ดี ๆ อาจจะถูกนำไปโปรโมทในช่องทางต่าง ๆ ของ LINE และ ช่องทาง LINE Shopping นี้ด้วย
แล้วก็เป็นไปได้ว่า LINE อาจจะกลายเป็น Marketplace ที่ขึ้นมาเทียบกับเจ้าตลาดเลยก็ได้ ซึ่งดูจากจุดแข็งที่ LINE มี โดยเฉพาะจำนวนผู้ใช้งานที่มากกว่าคู่แข็งทั้งหมด (90 กว่าเปอร์เซ็นต์ของคนไทยใช้ LINE) คงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะเกิดสิ่งนั้นขึ้นมา
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
3. สิ่งที่ LINE MyShop มี และ Shopee หรือ Lazada ไม่มี
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2020/04/UntitledE-03-1024x1024.png)
สิ่งที่ LINE ทำได้เหนือกว่าคือความเป็น Personalize หรือความเป็นเฉพาะบุคคล การสนทนาบน LINEนั้นจะทำให้เราสามารถคาดเดา หรือ ดูพฤติกรรมของลูกค้าได้ชัดเจนกว่า อีกทั้งถ้าผสมเข้ากับเรื่อง Broadcast แบบเฉพาะเจาะจงบุคคลของ LINE Official Account ได้แล้ว จะทำให้เราสามารถ Broadcast เฉพาะกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ ที่มีโอกาสซื้อสูงได้อีกด้วย
ความเป็น Chat Platform ของไลน์ที่เป็นโปรแกรมแชทที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศไทยที่มีจำนวนมากถึง 44 ล้านคน ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลูกค้าจะชอบคุยใน Platform ไหนมากกว่ากันระหว่าง Lazada หรือ Shopee กับ LINE อีกทั้ง LINE ยังมีโอกาสที่เราจะ Up-Sell ได้มากกว่า Lazada หรือ Shopee เพราะการพูดคุยนั้นจะทำได้สมูธกว่าการใช้ Lazada หรือ Shopee คุยนั่นเอง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
สรุปแล้ว Lazada หรือ Shopee นั้นมีข้อดีเมื่อสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทเดียวกันกับท้องตลาด และสามารถต่อสู้กันในเรื่องของราคาได้ เพราะ Lazada หรือ Shopee จะได้เปรียบกว่า LINE MyShop ตรงที่ว่าสามารถที่จะจัดแคมเปญต่าง ๆ และสามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมากกว่า LINE MyShop
แต่ LINE MyShop จะได้เปรียบ Lazada กับ Shopee มหาศาลเมื่อคุณสามารถดึงให้ลูกค้าของคุณมาแอด LINE Official Account ของคุณได้ เพราะคุณสามารถที่จะส่งโปรโมชัน และ ข้อเสนอต่าง ๆ ได้โดยตรงที่ตัวลูกค้าของคุณโดยที่ไม่ต้องไปแข่งกับร้านอื่น ดังนั้นแล้วถ้าหากคุณวาง Funnel ได้ดี และสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงแล้ว เมื่อรวมกับ LINE MyShop ก็เปรียบกับเครื่องผลิตเงินดี ๆ นี่เอง !
ทั้งนี้ก็ไม่อยากจะให้ทิ้ง Platform ไหนสักอันหนึ่งเลย เพราะยิ่งเรากระจายไปเปิดร้านในหลาย ๆ Platform นั้น ก็จะยิ่งทำให้คนเห็นเรามากขึ้น ถ้าเปรียบกับ Offline ก็เหมือนเราเปิดหน้าร้านหลายสาขานั่นเอง แต่ที่สำคัญคือการเลือกทำเลว่าแต่ละที่นั้นเหมาะกับการใช้งานแบบไหนนั่นเอง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning 2020” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)