ร็อกไอซ์ น้ำแข็งถุงธรรมดาแต่ฟาดรายได้ไปหลักร้อยล้าน น้ำแข็งนี่แทบจะเป็นสินค้าที่เราใช้กันแทบทุกบ้าน และน้ำแข็งเป็นหนึ่งในสินค้าไม่กี่อย่างที่เราสามารถตัดสินใจซื้อได้โดยไม่คำนึงยี่ห้ออะไรมากนัก แค่สะอาด และราคาย่อมเยาว์ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
โดยราคาของน้ำแข็งทั่ว ๆ ไปที่ขายอยู่ตามท้องตลาด ก็จะไม่เกิน 10 บาท ประมาณ 8 บาทได้ ยกเว้นก็แต่……น้ำแข็งยูนิต ที่มีชื่อว่า ร็อกไอซ์ เพราะแบรนด์นี้ เขาตั้งราคาขายอยู่ที่ถุงละ 18 บาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าน้ำแข็งยี่ห้ออื่น ๆ ในท้องตลาดเกือบเท่าตัว แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ถึงแม้ว่าราคามันจะสูง แต่ก็มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยยอมจ่าย
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
เพราะอะไรเขาถึงยอมจ่ายค่าน้ำแข็งที่แพงกว่าเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ? แล้วเพราะอะไร น้ำแข็งร็อกไอซ์ถึงกล้าตั้งราคาขายถึงถุงละ 18 บาท ? งั้นวันนี้นินจาการตลาดจะมา #สรุปให้ในโพสต์เดียว
ใครอยากชมเนื้อหาแน่น ๆ ดูคลิปด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2021/09/RockIce-saperator-img01.jpg)
1. สิ่งแรกเลย น้ำแข็งยี่ห้อนี้ ไม่ใช่ของคนไทยแน่นอน เพราะบนถุงของน้ำแข็งร็อกไอซ์ นั้นมีตัวอักษรสีน้ำเงินเขียนว่า “Kokubo” และตัวอักษรญี่ปุ่นสีแดงที่เรียงแถวกันลงมา นั่นก็น่าจะเป็นคำตอบที่บอกเราได้ว่า ต้นกำเนินของ ร็อกไอซ์ นั้นมาจากประเทศญี่ปุ่น
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
2. ร็อกไอซ์นั้นก่อตั้งโดยคุณ Yoshi Kokubo เมื่อปี พ.ศ. 2516 ต่อมาเพื่อหวังที่จะเจาะตลาดคนไทย ร็อกไอซ์จึงนำน้ำแข็งจากญี่ปุ่นเข้ามาขายในไทย โดยให้บริษัทตัวแทนในไทย เช่าห้องเย็นและรถสำหรับใช้ในการจัดส่งให้ แม้ว่าวิธีนี้จะทำให้ต้นทุนของน้ำแข็งนั้นสูงขึ้น จากเดิมที่ขายที่ญี่ปุ่น ก็ราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 85 บาทอยู่แล้ว พอมาเจอต้นทุนค่าขนส่งเข้าไปอีก ก็อาจเป็นไปได้ว่า ถ้าจะให้คุ้มทุนก็ต้องขายน้ำแข็งในราคาหลักร้อย
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
3. แต่พวกเขารู้ดีว่า ถ้าเป็นแบบนั้นการที่จะให้แบรนด์มาแจ้งเกิดที่ไทยนั้นคงยากมาก ๆ เพราะถ้ามองย้อนไปใน 40 กว่าปีที่แล้ว คงมีคนไทยน้อยมาก ที่จะยอมจ่ายเงินหลักร้อยเพื่อแลกกับน้ำแข็ง 1 กิโลกรัม ดั้งนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ในตอนนั้น ร็อกไอซ์ ตัดสินใจที่จะยอมเฉือนเนื้อตัวเอง ด้วยการลดราคาแบบสุดขีด ตีตลาดด้วยการขายน้ำแข็งในราคากิโลกรัมละ 45 บาทเท่านั้น!! โดยช่องทางการจำหน่ายหลัก ๆ ในตอนนั้นก็ยังไม่ได้กว้างขวาง มีแค่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารญี่ปุ่นบางแห่ง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
4. แต่ดูเหมือนว่า ราคา 45 บาทนั้นก็ยังอาจจะแพงไปสำหรับคนไทย และหลังจากเปิดตลาดในไทยไปได้ 2 ปี ร็อกไอซ์ก็จำเป็นต้องหั่นราคาน้ำแข็งอีกครั้งให้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 22 บาทอย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีตัวเลขที่ยืนยันว่าในตอนนั้นร็อกไอซ์ขาดทุนขนาดไหนจากกลยุทธ์ “ลดราคา” เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด แต่อย่างน้อย ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา คือ ทำให้ร็อกไอซ์ ได้ศึกษาการตลาดในไทย จนมั่นใจ
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2021/09/Rock-Ice-Saperator-img_02.jpg)
5. จนในที่สุด ในปี พ.ศ. 2548 ก็ตัดสินใจเปิดโรงงานน้ำแข็งร็อกไอซ์ ในประเทศไทย ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อผลิตน้ำแข็งยูนิต ภายใต้แบรนด์ “ร็อกไอซ์” โดยเฉพาะเพื่อวางขายตามร้านสะดวกซื้อ โดยคราวนี้ ตั้งราคาไว้ที่ถุงละ 12 บาท
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
6. มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่า น้ำแข็งของร็อกไอซ์ ดีกว่ายี่ห้ออื่นอย่างไร หรือแค่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น เลยต้องจ่ายแพงกว่า นอกจากเรื่องคุณภาพของน้ำแข็งที่สัมผัสได้ด้วยตา คือ ก้อนน้ำแข็งเป็นสี่เหลี่ยม สะอาด ใส เพราะ กรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน บางคนคงพอได้ยินกิตติศัพท์ของ “ร็อกไอซ์” มาบ้าง ว่าเป็นน้ำแข็งถุงสายพันธุ์อึดเพราะต่อให้ต้องสู้กับอากาศร้อน ที่สาหัสของบ้านเราขนาดไหน แต่เมื่อเทียบกับน้ำแข็งถุงยี่ห้ออื่น “ร็อกไอซ์” กลับละลายช้ากว่า
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
7. ซึ่งความลับที่ซ่อนอยู่ภายในก้อนน้ำแข็งร็อกไอซ์ที่มาจากกระบวนการผลิต ที่มีการควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำกว่าการผลิตน้ำแข็งทั่วไปถึง 3 เท่าและใช้หลักการที่เรียกว่า Slow Freeze หรือการแช่ให้แข็งตัวช้า ทำให้น้ำแข็งยูนิต มีความหนาแน่น และละลายช้า
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
![](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2021/09/Rock-Ice-Saperator-img_03.jpg)
8. นอกจากนี้ ยังบรรจุอยู่ในถุงลามิเนต 2 ชั้น ซึ่งออกแบบให้เป็น Food Grade เพื่อความปลอดภัย รวมถึงสามารถป้องกันการรั่วซึม และการเข้าของอากาศภายนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้แม้จะหยิบออกจากตู้เย็น ก็แทบจะไม่มีน้ำหยดซึมออกจากถุง หรือต่อให้ผ่านไป 30 นาที ก็มีเพียงหยดน้ำเล็กน้อยเท่านั้น
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
9. ด้วยจุดแข็งทั้งหมดนี้เอง ทำให้ร็อกไอซ์ ยืนหนึ่งในอาณาจักรน้ำแข็งมาช้านาน ไม่พอถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่า บนถุงน้ำแข็ง มีเครื่องหมายเชลล์ชวนชิมอยู่ด้วย ซึ่งปกติเราจะเห็นสัญลักษณ์นี้ ตามร้านอาหาร แต่เหตุผลที่มาอยู่บนถุงน้ำแข็งได้ เพราะ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เจ้าของตำนานเชลล์ชวนชิม เคยบอกไว้ว่า มีโอกาสไปชิมอาหารมาแล้วทั่วโลก แต่น้ำแข็งที่สะอาดแบบนี้ เคยไปเจอมาที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็คือน้ำแข็งร็อกไอซ์ นั่นเอง
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
10. เรื่องราวของน้ำแข็งร็อกไอซ์ ถือเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า แม้น้ำแข็ง จะเป็นสินค้าธรรมดา ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีจุดแข็งอะไร มาสร้างความแตกต่างได้ แต่ถ้าพยายามมองหา Pain Point ของคนซื้อให้เจอ แล้วพยายามมองหานวัตกรรม มาเพื่อแก้ปัญหา สินค้าธรรมดา ๆ ก็อาจจะกลายเป็นดาวเด่นได้
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
11. ดูได้จากการประสบความสำเร็จบริษัท โคคุโบะ ร็อกไอซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีผลประกอบการตามนี้
ปี 2561 รายได้ 120 ล้านบาท กำไร 1.5 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 128 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 127 ล้านบาท กำไร 8 ล้านบาท
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
เรียกได้ว่า ร็อกไอซ์ กล้าเล่นกับ Pain Point ของคนซื้อ ที่มักเจอปัญหาว่า พอหยิบน้ำแข็งออกจากตู้เย็น กว่าจะจ่ายเงิน เดินกลับถึงบ้าน น้ำแข็งก็ละลายไปไม่น้อย ด้วยการหาวิธีผลิตและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อยื้อเวลาให้ละลายช้าที่สุด เพียงแค่นี้ ก็ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เป็นที่จดจำ และกลายเป็นน้ำแข็งที่ไม่ว่าจะแพงกว่ายี่ห้ออื่น แต่คนก็ยังเลือกที่จะยอมจ่ายเพื่อท้าพิสูจน์ความอึดของน้ำแข็ง และลิ้มลองกับคุณภาพของน้ำแข็งที่ดีเลิศและไม่เหมือนใคร
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)
สามารถติดตามเนื้อหาสุด Exclusive ของนินจาการตลาดที่ไม่ได้ลงที่ไหนและคอร์สเรียนฟรี ให้พิเศษเฉพาะใน Facebook กลุ่มปิด “Digital Media Planning” คลิกไปขอเข้าร่วมได้เลย มีอัปเดตเนื้อหาอยู่ตลอด
![นินจาการตลาด](https://www.ninjakantalad.com/wp-content/uploads/2019/02/line-0-Small-50x37.5.png)